Google

Monday, December 10, 2007

Tamsui Oxford University College (3)


สภาพภายในมหาวิทยาลัยก็ยังมีรถสกูเตอร์ พาหนะยอดฮิตของชาวไต้หวันจอดเรียงรายอยู่ให้เห็นอยู่มากมายเหมือนที่อื่นๆ ของไทเป บรรยากาศร่มรื่น อาคารแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก เหลือร่องรอยยุคเผยแพร่ศาสนาของชาวตะวันตกในไต้หวันให้เห็นอยู่ ดูขรึมๆ ดี

Tamsui Oxford University College (2)


ทัศนียภาพอีกมุมหนึ่งภายในมหาวิทยาลัย Tamsui Oxford University College เงียบสงบ ห้องสมุดใหญ่โต ผมเข้าไปนั่งอ่านหนังสืออยู่ครึ่งวัน บรรยากาศน่าเรียน

Tamsui Oxford University College



มหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขา ไม่ห่างจาก Fort San Domingo นัก เดิม ชื่อ Junior College เป็นสถานศึกษาแบบตะวันตกที่เก่าแก่ที่สุดของไต้หวัน ทัศนัยภาพภายในมหาวิทยาลัยสวยงามมาก

ผู้ที่ก่อตั้งมหาวิทยาลัยแห่งนี้ คือ Dr. George Leslie Mackay หมอสอนศาสนาชาวแคนาดาที่เดินทางมาไต้หวันเมื่อพ.ศ. 2415

ภายในมหาวิทยาลัยมีอาคารเก่าแก่ คือ Oxford hall ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. 2425 ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเป็นโรงเรียนมัธยม ชื่อ Tamkang Middle School ซึ่งหมอสอนศาสนาผู้นี้ได้สร้างขึ้นมาเช่นกัน

Fort San Domingo


แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของตั้มสุ่ย (Tamsui)ได้แก่ ป้อม Fort San Domingo ชื่อจีนอ่านออกเสียงว่า ฮง เหมา เช็ง แปลว่า ”เมืองพวกหัวแดง “

ตามตำนานบอกว่าป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงพวกเสปญยึดครองทางเหนือของไต้หวันในช่วง พ.ศ. 2169 ถึงช่วง พ.ศ. 2184 และอาคารของป้องแห่งนี้จัดว่าเป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในไต้หวัน

ต่อมา ชาวดัตช์เข้าครอบครองดินแดนแห่งนี้และใช้กำลังเข้าขับไล่ชาวสเปญออกไปเมื่อ พ.ศ. 2484 หลังจากนั้นชาวดัตช์ก็ถูกขับไล่อกไปจากจีนเมื่อ พ.ศ. 2204

พอมาถึงปีพ.ศ. 2267 ป้อมแห่งนี้ได้รับการบูรณะใหม่ มีการสร้างกำแพงซึ่งมีประตูสี่ด้านล้อมรอบป้อม ปัจจุบันประตูทั้งสามหายไปหมดแล้ว เหลือแต่ประตูที่สี่เท่านั้น

พอมาถึงปีพ.ศ. 2410 พวกยุโรปหวนกลับมาอีกครั้ง คราวนี้ทางการให้อังกฤษเช่าสถานกงสุลในไต้หวัน พวกอังกฤษได้ก่อสร้างอาคารที่พักของกงสุลด้วยอิฐสีแดงต่อจากป้อม เมื่อพ.ศ. 2434

ต่อมาทางการอังกฤษตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและย้ายออกจากป้อมแห่งนี้ไป เมื่อพ.ศ. 2515 สถานกงสุลจึงปิดไป ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม

อัตราค่าเข้าชมพิพิภัณฑ์ก็แค่ 20 NT$ ครับ

2/28 Peace Park


สวนแห่งนี้เมื่อก่อนชื่อ Taipei Park บ้างก็เรียก New Park ก็มี แต่ต่อมานายกเทศมนตรี เฉิน สุ่ย เปียน (ตอนหลังเป็นประธานาธิบดีของไต้หวัน)เปลี่ยนชื่อเป็น “สวนสันติ” หรือ Peace park

สวนสาธารณะแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อุทิศให้แก่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านก๊กมินตั๋ง (KMT)และชาวบ้านชาวช่องที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวโดนลูกหลงจากการใช้กำลังปราบปรามของพวกทหารเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2490 ทำให้มีคนตายไปมากมาย

ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ประกอบด้วยสามส่วนใหญ่ๆ คือ บึงขนาดใหญ่รายล้อมสวน ในบึงมีดอกบัวปลูกสวยงาม มีเจดีย์จีนสวยๆศาลาจีนและพิพิธภัณฑ์ บริเวณกว้างขวางมาก มีผู้คนเข้าไปพักผ่อนกันไม่ขาดสายทั้งวัน

ร้านเก๋ บนเขา หยางหมิง


ร้านขายผลิตผลท้องถิ่นบนเขาร้านหนึ่ง จัดแต่งร้านให้ดูเก๋เพื่อเรียกลูกค้าให้เข้าไปเดินเที่ยวและซื้อของของตน บางร้านขายดอกไม้ ขายผักปลอดสารพิษ ปรุง ผักกันสดๆ ที่นั่น มีคนนั่งทานกันเยอะ ปัจจุบันรัฐบาลจำกัดผู้บุกรุกรายใหม่ไม่ให้ขึ้นไปจับจองที่ทำกินบนอุทยาน อนุญาตเฉพาะคนที่อยู่มาก่อนเท่านั้น

ชาดอกไม้ บนเขาหยางหมิง


บนเขาหยางหมิง มีร้านรวงไว้บริการนักท่องเที่ยวคล้ายกับที่อื่นๆ แต่ที่น่าสนใจ คือ ร้านชา

ร้านชาบนเขาหยางหมิงนั้น ไม่ใช่แค่เข้าไปดื่มชาธรรมดาๆ แต่เขานำดอกไม้ต่างๆ มาตาก ผ่านกรรมวิธีและนำมาชง มีดอกไม้หลายชนิด ตั้งแต่ชากุหลาบ ไปจนถึงชาลาเวนเดอร์

วิธีการเสิร์ฟของเขาก็แปลกดี โดยเขามีชาดอกไม้ต้มน้ำร้อนมาให้กาหนึ่ง ส่วนอีกกาก็เป็นนมสด เราสั่งชากุหลาบ มาลองดื่ม กลิ่นหอมมาก หากน้ำร้อนในกาหมด เราสามารถขอน้ำได้ไม่อั้น(น้ำร้อนนะครับ ไม่ใช่นม) ราคาประมาณร้อยกว่าเศษๆ ราคายุติธรรม ได้ประสบการณ์ไปอีกแบบ

ภายในร้านเขาตกแต่งไว้อย่างสวยงามตามสไตล์แบบภูเขา วันเสาร์ อาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวจากไทเปมาเที่ยวกันหนาตา

Sunday, December 9, 2007

Yangmingshan National Park


อุทยานแห่งชาติ หยางหมิงซาน

อุทยานแห่งนี้เป็นอุทยานที่สวยที่สุดในไทเป หยางหมิงเป็นภูเขาที่พาดยาวเหยียดอยู่ทางเหนือของกรุงไทเป ภูเขาแห่งนี้เป็นภูเขาที่เกิดจากลาวาภูเขาไฟ แต่ตอนนี้ภูเขาไฟสงบลงแล้ว (แต่ก็ยังมีน้ำพุร้อนปุดๆ ขึ้นมาให้เห็นหลายบ่อ)

บนภูเขาหยางหมิงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีดอกไม้สวยงามมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ตอนที่ดอกเชอรี่หรือดอกซากุระบานสะพรั่ง นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมักขึ้นมาดูดอกไม้กันหนาตาโดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

ที่เห็นอยู่ด้านหลังของผม เป็นนาฬิกาขนาดใหญ่ที่ประดับด้วยพันธุ์ไม้สวยงาม นักท่องเที่ยวชอบมายืนแอ้คถ่ายรูป รวมทั้งผมด้วย

คนงานต่างชาติประท้วงในไต้หวัน

Migrants protest working conditions

VACATION: Labor organizations will stage a march today to seek vacation rights for foreign caregivers as part of a three-day international conference on human rights

จาก TAIPEI TIMES วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2550

ค่ำนี้ได้ดูข่าวโทรทัศน์เกี่ยวกับคนงาน(รวมทั้งแรงงานไทย)ในไต้หวันเดินขบวนประท้วง นายจ้างที่ให้ทำงานวันละ 12 ชั่วโมง โดยไม่มีวันหยุดพักผ่อน รู้สึกเศร้าและไม่แปลกใจเลยที่ได้ยินเรื่องราวลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ ในไต้หวัน ไต้หวันเองมีด้านสว่างก็มีด้านมืดด้วย

ในไต้หวันมีแรงงานต่างชาติเข้าไปทำงานมาก โดยเฉพาะงานหนักๆ เช่นงานก่อสร้างที่คนไทยชอบไปทำกัน งานตามโรงงานอุตสาหกรรม งานดูแลคนแก่และงานอื่นๆ อีกที่คนไต้หวันเองไม่ทำ ด้วยคิดว่าค่าแรงแพงกว่าบ้านเรา อย่างไรก็ตามเมื่อไปแล้วก็พบว่าไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงกัน บางคนก็เลยตามเลย บางคนก็ขอกลับแบบไม่ได้อะไร แต่การจะกลับเองนั้นไม่ใช้เรื่องง่ายเพราะมีกระบวนการที่ออกซ้อนในเรื่องของอิทธิพลอยู่

ผมเคยพบและได้คุยคนงานไทยสองคนเมื่อกลางปีนี้ (เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ) ที่เต้าหยวน เป็นคนงานไทยมาจากภาคอีสาน กำลังพ่นสีเครื่องจักรเก่า (เครื่อง Calender หรือเครื่องรีด พีวีซีเพื่อทำให้ดูใหม่แล้วนำมาขายต่อในเมืองไทย หรือฟิลิปปินส์ อินโดนิเชีย แบบย้อมแมวแหกตาธนาคารว่าเป็นของใหม่ เพื่อขอทำเรื่องกู้) หมอสองคนไม่สวมหน้ากากกันทินเนอร์ทั้งๆ ที่กำลังพ่นสี

ขณะคุยกับเขาทั้งสอง ผมเห็นสภาพสถานที่ทำงานแล้ว ยังนึกไม่ออกว่าพวกเขาอยู่กันอย่างไรเพราะต้องทำงานอาทิตย์ละหกวันด้วยค่าจ้างเดือนละหมื่นกว่า NT$ เศษๆ ในขณะที่ราคาอาหารที่โน่นแพงกว่าบ้านเราเท่าครึ่ง

สภาพที่ทำงานไม่ต้องพูดถึง สกปรกสุดๆ กลิ่นน้ำมันเหม็นหึ่ง ขาดการดูแลเพราะความมักมากของนายจ้าง ทางการของไต้หวันอาจดูไม่ถึงหรือแกล้งไม่ดูก็ได้

ผมเคยนั่งเครื่องบินไปลงที่ไทเปและคุยกับคนงานไทยที่กำลังจะไปเป็นคณะสี่ห้าคนแล้ว เขาเปี่ยมไปด้วยความหวัง แต่ก็อย่างว่า ที่เราเห็นกับความเป็นจริงนั้นไม่เหมือนกัน ไม่มีใครได้ยินข่าวคนงานได้รับอันตรายถึงในในเขตก่อสร้างเพราะนายจ้างปิดข่าวไม่ให้รู้ ก็ระวังกันไว้นะครับ

ผมไม่แน่ใจว่า ปี 2550 มีคนงานไทยเป็นจำนวนเท่าใดแน่ แต่มีสถิติเมื่อ พ.ศ. 2542 มีคนงานไทยไปทำงานที่ไต้หวันกว่า 100,000 คน (ข้อมูลจาก Clean Clothes Campaign) ไม่รู้ว่าดีใจหรือใจหายดี

ก็ระวังไว้บ้างแหละดี ลองดูปัญหาที่คนงานไทยหรือคนงานต่างชาติในไต้หวันมักประสบได้แก่

o ถูกนายจ้างหรือหัวหน้างานคนไต้หวันตะคอก และมักขู่สำทับว่าจะส่งตัวกลับบ้านหากขัดขืน

o สภาพการทำงานหลายแห่งแย่เอามากๆ บางแห่งไม่มีแม้ห้องพยาบาลสำหรับปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากคนงานป่วยขึ้นมาคนหนึ่งก็ต้องรอไปก่อน จนกว่าจะมีคนงานคนอื่นป่วยอีก แล้วจึงสมทบไปหาหมอพร้อมๆ กัน

o ค่าจ้างได้น้อยกว่าที่ตกลงกันไว้ บ่อยครั้งที่นายจ้างให้พักแค่ครึ่งชั่วโมง และบ่อยครั้งถูกหักเงินค่าจ้างไปครึ่งหนึ่ง

o ถูกบังคับให้ทำงานโอเวอร์ไทม์หรือนอกเวลาทุกวันแม้ในวันหยุด

o ปัญหาภาษาจีน คนงานพูดกับนายจ้างไม่รู้เรื่อง

o ค่านายหน้าการไปทำงานหรือค่าธรรมเนียมสูงขึ้น เมื่อก่อนคนงานไทยจ่ายค่านายหน้าแค่ 85,000-95,000 บาท แต่ปัจจุบันค่านายหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 180,000 บาท (มากกว่าที่กรมแรงงานกำหนดไว้ไม่เกิน 56,000 บาท)

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Clean Clothes Campaign

Thursday, December 6, 2007

ตอบคำถามผู้อ่าน


ขอตอบเลยนะครับ

1.เอาเสื้อแจ้กเก็ตหนาๆ ติดไปด้วยเพราะช่วงนี้จะหนาวหน่อย หนาวกว่าบ้านเรามาก โดยเฉพาะช่วงกลางคืน กับตอนเช้าๆ หาซื้อจากบ้านเราจะถูกกว่า เสื้อผ้าที่โน่นแพง แม้จะเมด อิน ไชน่าก็ตาม

2.หากไปในนามบริษัทหรือทัวร์ก็น่าจะได้พักดีๆ ย่านไทเปดีกว่าเพราะบริษัทจ่าย(หรือเราจ่ายเงินไปแล้ว) หากไปด้วยเงินตัวเองก็พักโรงแรมราคาย่อมๆ ราคาตกประมาณ พันกว่า NT$ แถวๆ Taipei Main Staion ก็มีโรงแรมราคาไม่แพง

3. ลองซื้อ Taiwan ของ Lonely Planet ก็ได้ครับละเอียดมากซื้อที่ Se Ed ก็มี ราคาเล่มละพันกว่าบาท(ไม่แน่ใจนะครับเพราะผมซื้อมาเจ็ดร้อยกว่า สองสามปีก่อน) หรือที่ร้าน Asia Book หรือร้าน Bookazine (สยามดีสคัพเวอรี่) ก็มีครับ

4.ลองอ่านโลนลี่ แพลนเน็ตดูเพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะพอสมควร หรือเปิดดูทีลุงวรรณเอามาให้ดูก็ได้ มีหลายเว็บ เช่น Travel In Taiwan

5. ปัจจุบันคนไต้หวันพูดภาษาอังกฤษได้มากกว่าคนไทย (คิดเเป็นเปอร์เซ็นต์) เด็กรุ่นใหม่พูดสื่อสารได้ คำภาษาจีนง่ายๆ มีไว้ด้านหลัง ไกดฺบุ้คครับ

6.อาหารไต้หวันไม่มีอะไรพิเศษ หากพูดไม่ได้ลองชี้ๆ ดู ราคาหาอาหารตามแผงข้างถนน อยู่ที่ราคา 30-40-50-60 ดอลลาร์NT$ ขึ้นอยู่กับว่าสั่งอะไร ไม่แพงมาก ก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่กว่าบ้านเราเยอะ ไม่ใช่แบบใช้ตะเกียบคีบคำเดียวหมดเหมือนบ้านเรา

ลองดูนะครับ
หากท่านใดสนใจรายละเอียดมากกว่านี้ก็เมล์มาถามได้ครับ

ถามเรื่อง Taiwan ครับ

มีคำถามจากผู้อ่าน เห็นว่าคงประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังเดินทางไปเที่ยวไต้หวันครับ เลยนำลงมาให้อ่านกัน

สวัสดีครับคุณลุง วรรณ

ผมอ่านข้อความจากลุงวรรณแล้วรู้สึกมีประโยชน์มากๆครับ ขอบคุณที่ช่วยทำ web ดีๆแบบนี้ขึ้นมา ให้คนอื่นๆมาหาข้อมูลกัน แต่ผมก็มีข้อสงสัยอยากรบกวนถามลุง หลายข้อเลยครับ

- ผมกำลังจะไปไต้หวัน(ไทเปและเกาสง)ในวัน ที่ 9 ธันวาคม 2550 ถึง 12 ธันวาคม 2550 ช่วงนี้อากาศเป็นไงบ้างครับ หนาวมากมั้ยจะได้เตรียมเสื้อกันหนาวไปถูกครับ
- ผมอยากทราบว่าที่ไหนในไทเป ที่เป็นแหล่งวัยรุ่น(คล้ายๆสยามบ้านเรา) แล้วถ้าอยากพักแถวนั้นมีโรงแรมอะไรที่ไม่แพงบ้างหรือเปล่าครับ แล้วถ้าเป็นลุงวรรณแนะนำอยากให้ไปพักที่ไหนบ้างหรือเปล่า
- ผมลองหาแผนที่ไต้หวันตามร้านหนังสือแล้ว แต่ไม่เห็นมีเลยครับ เลยอยากทราบว่าจะสามารถหาได้ที่ไหนบ้างครับ
- มีสถานที่เที่ยวอะไรที่น่าสนใจในไทเปบ้างครับ ทั้งกลางวันและกลางคืนเลย และมีเมืองไหนน่าเที่ยวอีกบ้างครับ
- ผมเคยทราบมาว่าที่ไต้หวันคนพูดภาษาอังกฤษได้น้อย ลุงวรรณมีภาษาจีนคำไหนที่แนะนำให้พกติดตัวไว้ในเวลาจำเป็นบ้างมั้ยครับ
- อาหารที่ขึ้นชื่อของไต้หวัน มีอะไรบ้างครับ จะได้ไม่พลาด

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณลุงวรรณอีกครั้งครับ ที่มีของดีๆมาฝากอยู่ตลอด และต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่อาจจะรบกวนลุงมากไปหน่อย คือว่าผมไม่เคยไปจริงๆ ก็เลยมีคำถามเยอะหน่อย

จะตอบบทความต่อไปครับ

Thursday, November 22, 2007

Ceramic Street (6)


เราเดินเข้าไปในร้านกับเพื่อน เพื่อชมเครื่องดนตรี ที่นำภาพมาให้ดูนี้เป็นเครื่องดนตรี Ocarina สามแบบในหลายๆ แบบที่เราเห็น มีทั้งเป็นรูปอย่างที่เห็นในภาพและแบบรูปดาวหรือรูปนกและรูปอื่นๆ

Ceramic Street (5)


ร้านนี้ขายเครื่องดนตรีอ้อกคารีน่าซึ่งเป็นเครื่องเป่าทำจากดินเผาหรือเซรามิก เวลาเป่าเสียงคล้ายขลุ่ยเพียงออบ้านเรา ลักษณะกลมๆ แบนๆ คล้ายลูกสะบ้า แต่รูปิดเปิดไม่เหมือนขลุ่ย มีสองด้าน ด้านหน้ามีสี่รู ด้านหลังมีสองรู(ดูภาพ Ocarina ได้ที่หน้าบล้อก"โลกของลุงวรรณ")คนขายเครื่องดนตรีออกมายืนหน้าร้านเป่าโชว์นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมา เธอเล่นได้ทีเดียว ก็จะขายของเล่นไม่เป็นก็ไม่รู้จะดึงดูลูกค้าอย่างไร

Ceramic Street (4)


เดินไปตามถนนในหมู่บ้านเซรามิกพบผลิตภัณฑ์แปลกๆ มากมาย ในภาพเป็นกระถางต้นไม้ที่ทำมาจากหินเจาะด้วยเครื่องเจาะ ที่เดาว่าใช้เครื่องเพราะความเรียบของโพรงเจาะนั้นเกิดจากสวาน คงใช้มือเจาะลำบากเนื่องจากหินแข็งมาก บางก้อนเป็นหินอัคนี ก็สวยไปอีกแบบ

Tuesday, November 20, 2007

เงินดอลลาร์ ไต้หวัน




เงินที่ใช้กันในไต้หวัน เป็นสกุลเงิน Taiwan Dollar(NT$) เราสามารถแลกเปลี่ยนเงินทุกสกุลเป็นเงินไต้หวันได้ที่ธนาคารแทบทุกแห่ง ห้างสรรพสินค้าบางแห่งก็มีที่รับแลกเหมือนกัน

ธนบัตรไต้หวัน มีตั้งแต่ราคา NT$100, 500, และ 1,000 ส่วนเหรียญนั้นก็มีตั้งแต่เหรียญ NT$1, 5, 10, 20 และ 50 ดอลลาร์ ไม่มีธนบัตรใบละ 50 แบบบ้านเราครับ มีแต่เหรียญ 50 ดอลลาร์ อันใหญ่ๆ สีทองๆ นั่นแหละครับ

แหล่งที่มา Banknotes of Taiwan

Monday, November 19, 2007

รถเมล์ รถไฟ ใน Taipei


ขอคั่นรายการสถานที่ท่องเที่ยวไว้สักแป้บนะครับ มีผู้อ่านถามเรื่องการเดินไปโน่นมานี่ในไต้หวัน สำหรับท่านที่เดินทางไปไทเป รถราสะดวกมาก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า MRT ที่เล่ามาแล้ว รถไฟ รถบัสโดยสารในเมืองและรถโดยสารที่วิ่งระยะทางไกลๆ

มาดู MRT ก่อน รถไฟฟ้าทุกสาย เป็นบริษัทเดียวกัน แต่เราสามารถต่อรถได้ทุกสายโดยใช้ตั๋วใบเดิม ส่วนราคาค่าตั๋วก็ขึ้นอยู่ว่าเราขึ้นไปกี่สถานี ก่อนขึ้นให้สังเกตป้ายว่าเราจะไปไหน แต่ละสายจะมีสีต่างกัน เช่น สายตั้มสุ่ย (Danshui Line เป็นสายสีแดง) จะผ่านสถานี CKS Memorial Hall ฉะนั้นต้องระวังเพราะมีอีกหลายสี ไม่จำเป็นต้องอ่านภาษาจีนออกเพราะเขามีภาษาอังกฤษกำกับไว้ด้วย และยังมีอีกหลายสายที่น่าสนใจ เช่น สายสีส้ม (Zhonghe Line) สายสีเขียว (Xindian Line) และบางสายก็ไปถึงแค่ Beitou เท่านั้น หากจะไป Xin Beitou ก็ต้องต่อรถไปอีกหน่อย(สายสีชมพู)

จากสนามบินเข้าเมือง

เครื่องบินระหว่างประเทศทุกเที่ยวบินต้องมาลงที่สนามบินเต้าหยวน(Taoyuan International Airport) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของไทเป ใช้เวลาวิ่งจากสนามบินเข้าไทเปประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าจะให้ง่ายและถูกที่สุดก็อาศัยรถโดยสารจากสนามบินเพราะมีรถบัสบริการถึง 6 สายได้แก่
• Evervoyage
• Fe Go Express
• Taiwan Bus Corporation
• Taoyuan Bus Corporation
• Toward You Air Bus
• United Highway Bus

รถไฟวิ่งระหว่างเมือง

บริการรถไฟสายต่างๆ ที่วิ่งให้บริการระหว่างเมืองนั้นเป็นของบริษัท Taiwan Railways Company มีทั้งรถด่วน รถธรรมดา รถธรรมดาจะจอดรับผู้โดยสารทุกสถานี หากอยากขึ้นรถไฟต่างเมืองในไทเปก็ให้ไปดักขึ้นที่สถานี Banqiao (Panchiao) Taipei Main Station และ Songshan Station แต่หากจะไปรถด่วนละก็ให้ไปที่ Taipei Main Station อย่างเดียว ซึ่งรถทุกสายจะเข้ามาจอดที่นี่
.
ข้อมูลจาก Taipei Road Map

Sunday, November 18, 2007

ตอบจดหมายท่านผู้อ่าน


ขอตอบคำถามเป็นข้อๆ เลยนะครับ

1. ถ้ามีเวลาไม่มากหรือมีเวลาช่วงสั้นๆ หลังสัมนาให้เดินไปที่ Taipei Main station ไม่ไกลมากขึ้นรถไฟ MRT สาย Dansui(สีแดง)ไปเที่ยวตั้มสุ่ย(ใช้เวลาทั้งวันหรือครึ่งวันก็แล้วแต่เรา) มีที่เที่ยวเยอะทั้ง Fishermen's Wharf และโบราณสถานแถวๆ นั้น เช่น มหาวิทยาลัยอ้อกฟอร์ด(Tamsui Oxford University College)และ Fort San Domingo ที่แนะนำตั้มสุ่ยเพราะอยู่ไม่ไกลมาก ไป-กลับสะดวก ที่เที่ยวเยอะ ถ้าไม่เมื่อยขาซะก่อน

2. ไปเที่ยวไต้หวัน ไม่จำเป็นต้องแลกเงินเอาไปมากเพราะตอนกลับมาแล้วแลกคืน ขาดทุนเยอะ gap ของ selling rate และ buying rate ต่างกันมากโขอยู่ แลกเอาไปเฉพาะพอใช้ หากจะซื้อของประเภทคคอมพิวเตอร์ซื้อบ้านเราถูกว่า หากซื้อ accessory ละก้อก็โอเคครับ

ความปลอดภัยที่นี่ค่อนข้างดี(เยี่ยม) อาชญากรรมน้อย ไม่ต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ มิจฉาชีพ มีอยู่ทุกประเทศ ผมเรียนอยู่ที่ออสเตรเลียก็ยังเคยได้ยินข่าวบ่อยๆ อย่าพกเงินเยอะ ได้ไม่คุ้มเสีย หากซื้อของในห้าง ใช้การ์ดซื้อก็ได้

การเดินทางใช้รถไฟฟ้าสะดวกมาก ลองขึ้นเล่นดู และขอแผนที่การท่องเที่ยวได้ที่สถานีรถ MRT ทุกแห่ง ฟรีครับ บางทีมีโบรชัวร์การโดยสารรถไฟเป้นภาษาไทยด้วย แผนที่ละเอียดดี คนไม่เคยไป ก็ไปถูก ขอแผนที่ที่ Taipei Mainstation ก็ได้ครับ

แต่หากเราอยากจะเที่ยวในเมือง ตอนเย็นๆ หลังเลิกประชุมเดินไปเที่ยวย่าน shopping malls แถวๆ ตึก Taipei 101 ก็ได้ ที่นั่นมีห้างสรรพสินค้ามากมายติดๆ กันเหมือนกับย่านสยามบ้านเราแต่ห้างใหญ่ๆ มากกว่า มีสะพานเชื่อมเดินถึงกันได้ จะเดินไปหรือนั่งรถไฟฟ้า MRT ใต้ดิน สายสีน้ำเงิน (Kunyang)ก็ได้ ขึ้นไปโผล่ที่สถานี Taipei City Hall แล้วเดินไปอีกนิด เดินดีกว่า ไม่ร้อน อากาศเย็นดี เตรียมแจ้กเก็ตเสื้อกันหนาวไปด้วย อากาศเย็นโดยเฉพาะกลางคืน เสื้อผ่าบ้านเราดีกว่า ถูกกว่า ที่โน่นแฟชั่นดีกว่าบ้านเรา (เมด อิน ไชน่า) เดินไม่เบื่อ

หรืออีกโปรแกรมหนึ่ง ลองไปเที่ยวที่ Chiang Kai-Shek Memorial Hall ก็ได้ เดินเที่ยวเพลินดี ขึ้นรถไฟใต้ดิน สาย สีแดงที่วิ่งมาจากDansui ผ่าน Taipei main station ไปโผล่ที่สถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall เลยครับ เดินเล่นแถวนั้น สวยดี แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะ รวมทั้งคนไทยด้วย ผมเคยได้ยินเสียงไกด์ไทยพากษ์จ๋อยๆ ฟังแล้วครึ้มดี เหมือนที่เคยได้ยินที่วัดพระแก้วครั้งหนึ่ง ไกด์ (license ด้วยนะ) พูดภาษาอังกฤษถูกๆ ผิดๆ ฟังแล้วเพลินดี "no go, no go, dis way นะ" แน้! มีนะซะด้วย เออ เอาเข้าไป

ลองดูนะครับ ได้ความว่ายังไง เขียนมาเล่าให้ลุงฟังบ้าง

จดหมายจากผู้อ่าน

มีจดหมายจากผู้อ่านที่กำลังจะเดินทางไปไต้หวันถามเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในไต้หวัน ก็ตอบให้ทราบเผื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นบ้างครับ

On 11/18/07, Seri Udharasawasdi wrote:
สวัสดีครับ ลุงวรรณ

ผมชื่อเสรีครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ

พอดีว่า ในสัปดาห์หน้านี้ ผมจะไปจัดประชุม ผงานบริษัท) ที่ไต้หวัน ครับ โดยในระหว่างนั้น จะมีเวลาช่วงว่างบ้างเล็กน้อย ซึ่งผม ไม่เคยไปที่ไต้หวันเลย จึง search ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต และพบเว็บไซต์ของลุงวรรณเข้า และได้เข้าไปศึกษา และอ่านเนื้อหาที่ลุงวรรณได้แชร์เอาไว้ เรียบร้อย ครับ และตัดสินใจเมล์มาสอบถาม เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากลุงวรรณ โดยแบ่งเป็นประเด็น ต่าง ๆ ดังนี้ครับ
1. เรื่องรบกวนเกี่ยวกับการขอคำแนะนำเรื่อง สถานที่ท่องเที่ยว ครับ
ในช่วงที่ผมไป ผมจะมีเวลาเป็นของตนเองจริง ๆ แค่ประมาณเย็น-คืนวันพฤหัสฯที่ 22 ครับ (อาจจะดชคดี ได้ช่วงตลอดบ่าย ของศุกร์ที่ 23 ด้วยครับ เพราะงานจัดแค่ช่วงเช้าศุกร์ แต่ต้องกลับคืนนั้น ตอนสองทุ่มครับ)
ไม่ทราบว่า ลุงวรรณพอจะมีสถานที่ท่องเที่ยว แนะนำมั๊ยครับ ใจจริง ๆ ผมอยากไปสถานที่ แนวประมาณ....วัดวาอาราม หรือ ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ การเมือง แต่เข้าใจว่า น่าจะลำบาก เพราะข้อจำกัดด้านเวลา (ดึกขนาดนั้น คงไม่มีที่ไหนเปิด...หรือเปล่าครับ) หรือถ้าไม่งั้น ก้อเป็นแนวตรงข้ามไปเลยครับ เช่น ตลาด ชีวิตยามค่ำคืน (จริง ๆ ก้อไม่ได้ต้องการขนาดสีลม สุขุมวิทนะครับ เพราะดูสีสัน ความวุ่นวายมากไปนิด) แต่อาจจะเป็นแหล่งชอปปิ้งที่ไม่พลุกพล่านมากนัก (ประมาณ สวนลุมไนท์บาซาร์น่ะครับ) ลุงวรรณพอจะมีคำแนะนำมั๊ยครับ
2. ว่าด้วยเรื่อง การเดินทาง การขนส่งมวลชน และ ความปลอดภัยในการเดินเท้าครับ
- ในไต้หวัน สมมติว่า ถ้าเราไปตามท้องถนน จะต้องระมัดระวังเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มากน้อยแค่ไหนครับ หรือเป็นเฉพาะแหล่ง ครับ และ สำหรับการเดินทาง จะยากลำบากมั๊ยครับ (ผมพักที่ Sheraton Taipei Hotel ครับ แต่งานประชุม จัดที่ Grand Formosa Hotel ครับ เลยไม่ทราบว่า หากจะเริ่มต้นเดินทาง ท่องเที่ยวสั้น ๆ ช่วงเย็น ๆ ควรเริ่มจากโรงแรมที่พัก หรือ โรงแรมที่จัดประชุมดีครับ)
นอกจากนี้ แล้ว หากลุงวรรณมีข้อแนะนำเพิ่มเติมประการใด ก้อเชิญได้เลยนะครับ เพราะผมเองเรียนตามตรงว่า ครั้งนี้ ที่ไป สมองค่อนข้างโล่งเลยครับ (คือ ไม่ค่อยมีข้อมูลของ ไทเปเลยครับ)
สำหรับข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติม (ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์และการให้คำแนะนำ) ผมเอง เคยไปต่างประเทศ ที่ญี่ปุ่น (ทำงานที่นั่น) กับจีน (ท่องเที่ยวกับทัวร์) ส่วนภาษา พออ่าน จีน กับญี่ปุ่นได้บ้างครับ (ตอนแรก เข้าใจว่า ภาษาจีนที่หลงเหลืออยู่ เล็กน้อย ซึ่งก้อเป็นจีนกลางที่ไม่เหมือนที่ไต้หวัน จะพอเป็นประโยชน์ได้บ้าง แต่พออ่านที่ลุงวรรณเขียน ว่า ภาษาไต้หวันมีลักษณะเป็นของตนเอง รวมถึงสำเนียง และภาษาพูด เลยมีความรู้สึกกังวลเพิ่มขึ้นครับ)
ท้ายที่สุดนี้ ผมขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาลให้ลุงวรรณและครอบครัว ประสบกับความสุข มีสุขภาพที่แข็งแรง (จะได้ update ข้อมูลให้เด็กรุ่นหลัง ได้อ่านกันเรื่อย ๆนะ ครับ)

ด้วยความเคารพเป็นอย่างสูงครับ

เสรี

Wednesday, November 14, 2007

Ceramic Street 3


ภายในร้านของแต่ละร้านจะมีกลยุทธเรียกลูกค้าในลักษณะต่างๆ กัน ร้านนี้ไอเดียกระฉูด ให้นักเท่องเที่ยวสามารถปั้นเองได้ ในภาพหนูน้อยสงคนบรรจงปั้นงานของตัวเองอย่างขมักเขม้น สร้างความน่าสนใจให้นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมา

Street Ceramic 2


ถนนในหมู่บ้านเขาทำดีมาก ให้คนเดินเที่ยวเพื่อซื้อของพื้นบ้านหรือสินค้าท้องถิ่น เจ้าของร้านแต่ละร้านก็พยายามแต่งร้านให้ย้อนยุคเพื่อเรียกบรรยากาศของวันเวลาเก่าๆ กลับมา ถนนปูด้วยหิน ไม่มีรถวิ่ง เมศบาลนำต้นไม้มาปลูกเพื่อให้เกิดความร่มรื่นแก่นักท่องเที่ยว อยากให้บ้านเราเป็นแบบน้จัง

Ceramic Street


ร้านนี้ทำเท่ห์ เขาทำทางเดินเป็นเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาเก่าแก่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ทางเข้าด้านหน้าเป็นรูปเตาเผาเซรามิก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทะลุเข้าไปชมข้างในโดยผ่านทางนี้เข้าไปในร้านได้ ช่างคิดจริงๆ

เต้าหู้ปิ้ง


ไปเที่ยวถนนเครื่องปั้นดินเผาแห่งหนึ่งย่าน Yingee พบของกินเล่นที่ทำมาจากเต้าหู้หั่นเป็นสี่เหลี่ยม เสียบไม้นำไปย่างแล้วราดด้วยน้ำซอสหวานๆ ลืมถามเพื่อนเรียกว่าอะไร แต่อร่อยมาก เราชอบ กินเป้นอาหารว่างได้ดี

Monday, November 5, 2007

จักรยาน พาหนะยอดนิยม


คนไต้หวันนั้น ยังขี่จักรยานอยู่ก็มาก เอาจักรยานมาจอดที่สถานีรถไฟฟ้า จากนั้นก็ขึ้นรถไฟฟ้าหรือรถไฟไปทำงานในเมือง รถไฟฟ้า MRT จะมีแผนที่บอกว่าสถานีใดให้นำจักรยานขึ้นรถไฟฟ้าได้ ถึงจะไม่ทุกสถานี แต่ก็ถี่มาก อาจจะขี่ไปขึ้นรถไฟสถานีหน้าได้ โดยส่วนใหญ่ที่เห็น ผู้โดยสารจะนำจักรยานไปจอดท่าสถานีซึ่งเขาทำที่จอดไว้ให้ แล้วก็นั่งรถต่อ จะมีบ้างก็พวกวัยรุ่นหรือคนต่างชาติที่นิยมนำจักรยานขึ้นรถไฟฟ้า

สำหรับในบ้านเรานั้น แม้จะมีการรณรงค์ให้ขี่จักรยานกันปาวๆ แต่รัฐบาลก็ไม่ได้จริงใจอะไร ทำไปตามกระแสเท่านั้น ช่องทางจักรยานก็ไม่ได้ทำกันจริงจัง ผู้ขับขี่จักรยานก็ไม่มีพื้นที่จะขี่ เห็นธาตุแท้นักการเมืองไทยแล้วก็สังเวช น้ำเน่าไม่เลิก ขี้โม้ที่หนึ่ง ตอนหาเสียงละก้อ ปาวๆ ว่าจะทำโน่น ทำนี่ พอเห็นแล้วหายหัว จะเห็นการขี่จักรยานในเมืองใหญ่บ้านเราน่ะ ยาก

สถานีรถไฟฟ้า ซินเป่ยโถ


ผู้โดยสารกำลังยืนคอยรถไฟฟ้าอยู่ที่สถานีเป่ยโถซึ่งเป็นสถานีต้นทางแยกออกมาจาก สถานีเป่ยโถ ทุกสถานีของรถไฟฟ้าจะมีป้ายไฟฟ้าบอกเวลารถเข้าออก ว่าเราต้องคอยอีกกี่นาทีรถถึงจะมา และมีโทรทัศน์โฆษณาให้ดูแก้เซ็งระหว่างการยืนคอย

สถานีรถไฟฟ้าเจี้ยนถันยามเย็น



ที่ "เจี้ยนถัน"นี้มีตลาดอาหารใหญ่ อาหารอร่อยๆ หลายร้าน ผมกลับจากไทเป ก็มักจะแวะลงหาอาหารทานเพราะมีอาหารหลากหลายให้เลือก เป็นอาหารสำเร็จทานได้ทันที หากต้องการเดินเที่ยวก็มีของมากมายให้เดินช้อป ผมชอบกุนเชียงย่าง อันใหญ่ดี ราคา 20 ดอลลาร์ เดินแทะไปดูของเพลินๆ ไม่ได้ซื้อหรอก ดูไปอย่างนั้นเองเพราะไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าอะไร ก็ไม่เหมาะกับบ้านเรา ยกเว้นเสื้อยืด (เมด อิน ไชน่า)สวยๆ เพื่อนชอบพาผมมาที่นี่ หากไม่รู้จะไปไหน

ขนส่งไต้หวัน


สภาพรถขนส่งทางไกลๆ นั้นดูสะอ่านสะอ้านทุกคัน ไม่มีรูโหว่ หรือสีเทาๆ ทั้งคันแบบ บขส. ของเรา ไม่มีกระเป๋ารถเมล์ท่าทางหยาบคายแบบรถต่างจังหวัดของเรา พอเกิดมีเรื่องอะไร บขส. ปฎิเสธทันควันว่าเป็นรถร่วม ก็ตอนที่ให้เข้ามาร่วมทำไมไม่ออกระเบียบให้เคร่งครัดก่อนเข้าร่วม พูดมากแล้วเซ็ง บขส. บ้านเราจริงๆ

รถเมล์ประจำทาง


ท่ารถที่จะเดินทางไกลๆ บริการโดยบริษัทขนส่งเอกชนของไต้หวัน (ภาพนี้ถ่ายที่ท่ารถใกล้ๆ Taipei Main Station ) บริษัทที่เราคุ้นๆ ตาก็ได้แก่ บริษัท Guo- Guang Bus Corp บริษัท Union Bus บริษัท Dragon Bus บริษัท Free Go Bus Corp. และบริษัท Aloha Bus บางบริษัทให้บริการ 24 ชั่วโมง ปัจจุบันบริษัทเดินรถที่ว่านี้ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะแข่งขันกันให้บริการ โดยเฉพาะการตกแต่งภายในตัวรถดูหรูหรา มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพียบ เช่นโทรทัศน์รุ่นใหม่ๆ บริการผู้โดยสาร สำหรับท่านที่ต้องการใช้บริการเพื่อเดินทางไปสนามบินนานาชาติ CKS ขอแนะนำให้ใช้บริการรถโดยสารแบบนี้เพราะมีรถให้บริการไปถึงสนามบินและเมืองอื่นๆ อีกมากถึง 6 สาย(6 บริษัท) ลองนั่งดูครับ ประหยัดด้วย หากเป็นแท้กซี่ก็ฟันไปเกือบพันดอลลาร์

Sunday, November 4, 2007

แท้กซี่ไทเป


แท้กซี่ไต้หวันทั้งหมดเป็นสีเหลือง ไม่ได้หลากสีเป็นสายรุ้งแบบบ้านเรา ผมไปไต้หวันปีละสองครั้ง ไม่เคยถูกแท้กซี่โกงเหมือนที่ได้ยินข่าวในบ้านเราอยู่เนืองๆ (ส่วนใหญ่ผมใช้บริการรถประจำทางสาธารณะ เช่น รถไฟและรถบัส)
การขึ้นแท้กซี่ก็คล้ายๆ บ้านเรา ยืนโบกข้างทางได้เลยหรือจะโทรศัพท์เรียกมาก็ได้ ไม่มีชาร์จเพิ่มเหมือนในหมู่บ้านเรา(แต่ตามมรรยาทควรทิป 10 ดอลลาร์หากโทรให้มารับหรือให้เอากระเป๋าใส่ท้ายรถ) ค่าโดยสารก็คิดเป็นระยะ ขั้นแรกเสีย 70 ดอลลาร์ไต้หวัน(NT$) สำหรับ 1.5 กม. แรก เพิ่มอีก 5 ดอลลาร์ทุกๆ 300 เมตร หากคอยนานก็ชาร์จอีก 5 ดอลลาร์ทุกๆ สองนาที อย่างไรก็ตามพี่คนขับแกจะชาร์จเพิ่มหากเราใช้บริการในช่วงเทศกาล เช่น วันตรุษจีนเป็นต้น
ข้อควรระวังก็คือ หากจะเดินทางออกนอกเมืองไกลๆ ควรต้อรองราคาให้แน่นอนเพราะคนขับแท้กซี่จะไม่กดมีเตอร์ แต่ใช้ราคาตามที่ตกลงกัน ก่อนอื่นเราต้องรู้ระยะทางว่าห่างจากที่เรายืนอยู่กี่กิโลเมตร เราสามารถเดาได้ว่าจะต่อรองราคาประมาณเท่าไร อย่าต่อมั่วก็แล้วกันนะครับเพราะอาจต้องมาเสียดายเงินทีหลัง หากเพื่อนของเราเดินทางไปในระยะทางเดียวกันที่ถูกว่ากันเกือบครึ่ง

เดินทางด้วยเป้ใบเดียว



ผมเดินทางด้วยสัมภาระไม่มาก แม้ไปต่างประเทศทุกครั้งมีเป้ใบเล็กๆ เพียงใบเดียวด้วยเหตุผลประการแรก คือ ผมไม่ชอบถืออะไรพะรุงพะรังเพราะหนักและถือมากไม่ไหว ประการต่อมาก็คือเราสามารถเดินทางต่อไปไหนๆได้สะดวกมากกว่าการมีสัมภาระเยอะๆ มีเสื้อผ้าชุดสองชุดก็พอ แต่ที่ไต้หวัน เผอิญผมมีเสื้อผ้าทิ้งไว้ที่บ้านเพื่อนในไทเป จึงไม่ต้องเอาอะไรไปมาก แม้แต่แปรงสีฟัน ผมเคยไปเที่ยวเมลเบิร์นหกวันด้วยเสื้อผ้าสองชุด ซักเปลี่ยนที่laundary หยอดเหรียญ สะดวกมาก แต่คำแนะนำนี้ไม่เหมาะกับแก่สตรีนะครับเพราะมีอุปกรณ์เสริมเยอะ

Wednesday, October 31, 2007

รถไฟสะอาดของไต้หวัน


รถไฟสายยาวที่จะเดินทางไปไกลๆ เช่น Geelong ซึ่งอยู่ตอนเหนือและตะวันออกของไต้หวัน ภายในและภายนอกตู้รถไฟดูสะอาดสะอ้าน ไม่สกปรก สีตุ่นๆ ขมุกขมัว เหมือนรถไฟของบ้านเราซึ่งเมื่อสามสิบปีก่อนสกปรกอย่างไร ตอนนี้ก็สกปรกอย่างนั้น ผมไม่แน่ใจว่าความสกปรกที่ว่านี้จะจางหายไปเมื่อไร

ที่น่าสนใจก็คือ เขาไม่ได้ประท้วงจนทำให้ผู้โดยสารเดือดร้อนกันไปทั่วเหมือนบ้านเรา เมื่อวันก่อนคนงานรถไฟบ้านเราประท้วงไม่ยอมเดินรถ ใครจะเป็นอย่างไรก็ช่าง ขอให้พวกกูได้ตามที่กูต้องการ น่าทุเรศจริงๆ รถไฟไทยเป็นของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่เป็นของพวกพนักงานรถไฟเท่านั้น รัฐบาลต้องทำตามคำเรียกร้องของคนพวกนี้ทุกครั้งเลยหรือ แล้วคนไทยที่ต้องใช้บริการและรับกรรมในการกระทำของพวกเขาล่ะ ใครรับผิดชอบบ้าง คนที่ต้องไปทำงานและถูกไล่ออกเพราะการรถไฟไม่วิ่งล่ะ หาคนรับผิดไม่มี มีแต่รับเงิน รับชอบคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของกลุ่มตัวเองและพวกพ้อง น่าสมเพศจริง รัฐบาลทำอะไรไม่ได้ให้พวกนี้ขู่ฟ่อๆ อยู่ทุกครั้ง ขอให้เราชาวไทยประนามการกระทำในครั้งนี้

Wednesday, October 24, 2007

คำถามจากผู้อ่าน



มีผู้อ่านท่านหนึ่งเขียนมาถามเรื่องการไปเที่ยวไต้หวัน เห็นว่าเป็นประโยชน์เลยนำมาลงให้อ่านกันทั่วๆ เผื่อท่านอื่นๆได้อ่านกันบ้าง

สวัสดีค่ะ คุณลุงวรรณ

หนูกำลังจะไป ไต้หวันอาทิตย์หน้านี้ค่ะ ไปแบบแบ็คแพ็ค แต่ยังหาข้อมูลไม่ค่อยได้เลยเพิ่งได้เห็นภาพที่คุณลุงโพสไว้
ก็เลยอยากจะรบกวนถามคุณลุงนะค่ะ
-ถ้าต้องการนั่งรถเมล์ค่าบริการนี่คิดตามระยะทางเหมือนบ้านเรา(รถแอร์) หรือเปล่าค่ะ แล้วเป็นแบบระบบหยอดเหรียญหรือเปล่า แล้วถ้าซื้อตั๋ว MRT แบบรายวันจะใช้กับรถเมล์ยังไงค่ะ
-ถ้าต้องการเดินทางไปตามพื้นที่ต่างๆ ที่รถเมล์ไปไม่ถึง หรือรถไฟ จะต้องไปหารถทัวร์ที่จะไปสถานที่นั้นๆ ตรงไหนถึงจะเยอะค่ะ(ใช่หาแถว Taipei Main)เลยเปล่าค่ะ
-อยากได้แผนที่ ที่บอก เลขรถ เมล์ ที่ไหนมีขายบ้างค่ะ
วันนี้ไปงานสัปดาห์หนังสือมา เพื่อที่จะหาข้อมูลของไต้หวันก็ไม่ค่อยจะมีเลยค่ะ หนังสือภาษาอังกฤษก็เจอเป็นแบบเขียนตั้งแต่ปี 1989
รบกวนคุณลุงหน่อยนะค่ะ
ขอบคุณคะ

(ขอสงวนนามนะครับ)

ขอตอบเลยนะครับ
ที่ไต้หวันไม่มี backpackersเหมือนที่ออสเตรเลียและที่อื่นๆหรือบ้านเรา แต่ที่พักราคาถูกก็มี เช่น Taipei Youth Hostelและตามโรงแรมอื่นๆในที่ที่เราจะไปเที่ยว ค่าโรงแรมประมาณคืนละ1000 กว่า NT$ ไต้หวันดอลลาร์ ขอแนะนำให้พักแถวๆ นอกเมืองที่ไม่ใช่ย่านดาวทาวน์ หากเราอยากจะมาเที่ยวในเมืองก็อาศัยรถไฟฟ้าได้สะดวกครับ
- ค่าบริการคิดเป็นระยะทาง แล้วแต่ใกล่ไกล มีทั้งแบบเครื่องสแกนและหยอดตังค์ลงในตู้แบบรถ ปอพ.บ้านเราครับ
- ตั๋ว MRT ซื้อแบบการ์ด(Easy card)เติมเงินได้ เติมเงินเอาตามสถานีโดยตู้อัตโนมัติ ใช้ได้กับรถบัสและรถไฟฟ้า
- ข้าง ๆ Taipei Main Station มีสถานีรถบัสไปที่ไกลๆ ได้ ก่อนไปตรวจสอบว่าที่ที่เราจะไปเที่ยวมีรถไฟผ่านหรือเปล่า หากมีไปรถไฟฟ้าดีกว่า ขอแผนที่การเดินทางท่องเที่ยวได้ที่สถานี MRT ได้ทุกแห่ง
- ซื้อ Taiwan ของ Lonely planet ได้ที่ร้านหนังสือใหญ่ๆ เช่น Bookazine ซีเอ็ด หรือร้านใหญ่ๆ ราคาเข้าใจว่าเก้าร้อยกว่านะ(ไม่แน่ใจนะเพราะเคยซื้อเจ็ดร้อยกว่า ลองไปถามดู)

ภาพจาก Metro Taipei

Sunday, October 14, 2007

ภายในห้องสมุด


ภายในห้องสมุดตกแต่งเรียบๆ ด้วยไม้ทั้งหมด เป็นไม้สนหรือ pine tree สวยงาม แม้ที่วางวารสารและหนังสือพิมพ์ก็สวย

Saturday, October 13, 2007

Local Library


ห้องสมุดท้องถิ่นของเป่ยโถ(Beitou)เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปีก่อน ผมไปคราวก่อนยังไม่สร้าง นับว่าสร้างได้เร็วมาก อยู่ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์ชนพื้นเมืองของไต้หวีน ถ้ดไปเป็นพิพิธภัณฑ์สปาน้ำพุร้อนของเป่ยโถ

ห้องสมุดที่ว่ามีผู้เข้ามาใช้บริการมากอยู่ ตัวอาคารเป็นไม้ทั้งหมด สร้างได้สวยงามมาก สถาปัตยกรรมแบบสมัยใหม่ ภายในโอ่อ่ามาก นักเรียน นักศึกษาเข้ามาใช้ก็เยอะหนาตา หนังสือมีแทบทุกประเภท แม้จะไม่ใหญ่เท่าหอสมุดเก่าๆ ก็ตาม ฐานข้อมูลก็มีให้สืบค้นทุกอย่าง เขาลงทุนกับห้องสมุดได้ดีจริงๆ

Wednesday, October 10, 2007

Children of the world


เด็กนักเรียนประถมแวะเล่นริมแม่น้ำก่อนเดินทางกลับบ้าน เด็กๆ ที่ไหนๆ ในโลกก็คล้ายกัน "การเล่น คืองานของพวกเขา" หากพ่อแม่หรือครูเข้าใจธรรมชาติ ช่องว่างระหว่างเด็กกับคนโตก็จะเล็กลง การแก้ปัญหาก็จะเบาบางลงเช่นกัน

นั่งพักดูคนเดิน


หลังจากเดินจนเมื่อยขา นักท่องเที่ยวนั่งพักในบริเวณท่าเรือ มีของกิน ของเล่นมากมายให้เลือกซื้อ ทั้งของเด็กเล่น ของผู้ใหญ่เล่น ของกินแปลกๆ ผมซื้อกุนเชียงย่างราคา 20 ดอลลาร์(ไต้หวัน)มากินเล่น ไม่หวานเหมือนกุนเชียงบ้านเรา อันใหญ่มากเหมือนใส้กรอก กินเป็นอาหารกลางวันอิ่มเลย

Fishing Boats


เรือหาปลาจอดนิ่งริมเขื่อนฝั่งแม่น้ำตั้มสุ่ย มองเห็นความแตกต่างของชีวิตแบบเดิมของชาวประมงพื้นบ้าน เครื่องมือหาปลาเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย โดยใช้เรือไฟเบอร์แทนเรือไม้ ใช้เครื่องยามาฮ่าแทนการพายหรือแจว แต่ชาวประมงเรือเล็กก็ยังมีความสุขกับการหาปลาชายฝั่ง

สาวน้อยคอยใคร(คนหนึ่ง)


สาวน้อย(นักเรียน)หน้าสถานีรถไฟฟ้าตัมสุ่ย นั่งคอยเพื่อน ช่วงโรงเรียนเลิกสถานีแห่งนี้ก็มีคนมากหนาตาเหมือนกับสถานีอื่นๆ ทั้งนักท่องเที่ยวและคนทำงานเดินทางกลับ

Thursday, September 27, 2007

ริมน้ำหน้าร้านกาแฟ


นั่งอยู่หน้าร้านกาแฟริมน้ำตั้มสุ่ย ลมแรง ฝนตกปรอยๆ อากาศหนาว ดูครึ้มๆ ทั้งวัน

ร้านกาแฟ(3)


ร้าน 7 Eleven กับร้านกาแฟ Starbuck ของฝรั่งตั้งอยู่ริมเขื่อนฝั่งแม่น้ำตั้มสุ่ย

ร้านกาแฟริมน้ำอีกร้าน (2)


นี่ก็เป้นร้านกาแฟอีกร้านที่เห็นว่าบรรยากาศดี แต่ไม่ได้เข้าไปนั่งเพราะส่วนตัวแล้ว ไม่ดื่มกาแฟ

ร้านกาแฟริมน้ำตั้มสุ่ย



ร้านกาแฟสวยๆ ริมน้ำตั้มสุ่ย นักท่องเที่ยวและคนทำงานมานั่งจิบกาแฟคุยกัน บรรยากาศดี

Wednesday, August 29, 2007

Tamsui Township




ตั้มสุ่ย (Danshui หรือ Tamsui) เป็นเมืองชายทะเลของไทเป เคาน์ตี้ ชื่อตั้มสุยนี้แปลว่าน้ำจืด เมืองนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไต้หวันและชาวต่างชาติมาก ผู้คนจะพากันมาดูดวงอาทิตย์ตกที่นี่ เนื่องจากสวยมาก แม้ตั้มสุ่ยจะเป็นเมืองเมืองเล็กๆ มีพลเมืองเพียงแค่ 130,105 คน แต่มีมหาวิทยาลัยถึงสามแห่ง ได้แก่ Aletheia University Tamkang University และ St. John's University

ภาพจาก taiwan.net.tw

Tamsui Waterfront


ยังอยู่ที่ท่าเรือ Danshuei ขณะที่เดินทางๆไปเที่ยวครั้งที่สอง

Danshuei River


ทิวทัศน์ของท่าจอดเรือของชาวประมงพื้นบ้านที่ Tamsui มองจากท่าเรือจะไป Danshuei Fishermen's Wharf

Danshuei Fishermen's Wharf



Danshuei Fishermen's Wharf
ท่าเทียบเรือประมง ต้านสวย แห่งนี้เป็นท่าเรือริมอ่าวอเนกประสงค์ ใช้เป็นท่าเทียบเรือของชาวประมง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วย ในช่วงวันหยุด มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมแน่นขนัด ในช่วงที่สวยงามมากก็คือ ตอนเย็นๆ ช่วงอาทิตย์ตกดิน ท่าเรือแห่งนี้ อยู่ปากแม่น้ำตั้มสุ่ยหรือเรียกอีกสำเนียงว่า "ต้านสวน" จากตรงนี้จะมองเห็นภูเขากวนหยินอย่างชัดเจน เขาทำได้สวยงาม มีสะพานให้เดินเล่น มีตลาดปลาขายอาหารทะเลขายสดๆ เรากับเพื่อนสวาปามกันจนพุงกาง

Sunday, August 26, 2007

นักแสดงข้างถนนที่หน้าสถานีรถไฟฟ้า Tamsui


ศิลปินผู้นี้เล่นกีตาร์คลาสิกได้เพราะมาก หากใครต้องการซีดีก็สามารถซื้อหาไปฟังได้ หรือจะให้เงินในกล่องเพื่อให้ศิลปคงคู่อยู่กับท้องถนนต่อไป ไม่จำกัดอยู่แต่ในหอประชุมคอนเสิร์ตแต่เพียงสถานที่เดียว

ศิลปินข้างถนน


ศิลปินข้างถนนที่รับจ้างวาดรูปนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยว Tamsui และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางนั่งเรือไปตามแม่น้ำ เป็นเสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยวอีกแบบหนึ่ง

อีกมุมหนึ่งของป่าชายเลน


ภาพสงบเงียบชองป่าชายเลนริมฝั่งแม่น้ำ Tamsui ซึ่งตัดกับภาพความวุ่นวายในเมืองอย่างชัดเจน ในช่วงวันหยุดจะมีประชาชนมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจกันมาก

แม่น้ำ Tamsui (Danshuei River)


แม้ไต้หวันจะเป็นประเทศอุตสาหกรรมไปแล้ว มีตึกรามบ้านช่องเต็มผุดขึ้นไปหมด พื้นที่เกษตรกรรมลดน้อยลง แต่ทางการของเขายังอนุรักษ์ป่าชายเลนและวนอุทยานไว้เป็นอย่างดี นี่เป็นป่าโกงและป่าชายเลนริมแม่น้ำ Tamsui

หัวลำโพงไต้หวัน (Taipei Main Station)



สถานนีรถไฟหลักของไทเป มีลักษณะคล้ายหัวลำโพงของบ้านเรา จะไปที่ไหนของไต้หวันก็ขึ้นรถไฟจากที่นี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟดีเซลรางหรือรถไฟฟ้าของ MRT รถไฟอยู่ลึกลงไปใต้ดิน การอ่านป้ายในการเดินลงไปก็หาไม่ยาก สีแต่สายให้ดูอย่างชัดเจน นับว่าสะดวกทีเดียว