Google

Tuesday, March 27, 2007

พิพิธภัณฑ์คนพื้นเมือง มองจากห้องสมุด

ไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดชุมชนที่ซิน เป่ยโถ ห้องสมุดแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์คนพื้นเมือง ภาพนี้ถ่ายจากห้องสมุด เป็นอาคารสวยมากอาคารหนึ่ง

Monday, March 26, 2007

รถเมล์ขึ้นเขา


บริการรถไฟฟ้านั้น อยู่แต่เฉพาะในเมืองไทเปกับบริเวณรอบๆ หากใครต้องการเดินไปไกลๆ ก็มีรถไฟดีเซลรางเหมือนกันส่วนอีกบริการหนึ่งก็คือรถเมล์ประจำทาง ผมไปขึ้นเขาซึ่งอยู่ในเขตอุทยาน ชื่อ หยางหมิง ซาน ก็ขึ้นรถเมล์ไป ไม่ต้องขับรถให้ลำบาก(เพราะไม่มีรถส่วนตัว) ขึ้นไปก็ไปต่อข้างบนอีกทอดหนึ่ง รถเมล์ของเขาไม่ได้มีสีเดียวแบบเรา ของเรามีสีดำขมุกขมอมสีเดียว ส่วนของเขาสะอาดสะอ้าน มีหลายสี

ป้ายบอกทางของรถเมล์ประจำทาง

รถเมล์ของไทเปนั้นก็สะดวกไม่แพ้รถไฟฟ้าเพราะไปได้ทุกซอกทุกมุม การขึ้นรถหากไม่รู้ว่าไปทางไหนก็ดูป้ายเอาเพราะมีแผนที่ติดไว้ที่ป้ายรถเมล์ทุกแห่ง ก็อ่านเอา แต่ไม่มีภาษาอังกฤษ มีแต่ภาษาไต้หวัน(จีน) ถึงอย่างไรก็ยังพอเดาได้เพราะทำไว้ละเอียด ไม่เหมือนขสมก.บ้านเรา ทุกป้ายมีแต่ความหมายว่า "นรก"ทั้งนั้น รถสกปรก คนขับ หรือพขร.พกส.ไม่รู้ขสมก.ไปขุดมากจากนรกขุมไหน สุภาพจริงๆ

บริการรถไฟฟ้าของไทเป


สถานีรถไฟฟ้าหรือรถไฟฟ้าใต้ดินของไทเปนั้นสะอาดสะอ้าน มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่อผูโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นคนแก่ คนพิการ คนท้อง หรือเด็กเล็ก ตั้งแต่ป้ายบอกเวลารถเข้าสถานี หรือสถานีหน้าเป็นสถานีอะไร บอกร์แผนที่สำหรับคนเดินทาง แผนที่เดินรถ โบรชัวร์และแผ่นพับ มีแจกฟรี เอ แปลกที่บ้านเราไม่มี

Friday, March 9, 2007

สวนสันติ


ภายในสวน Peace Park หรือสวนสันติของไทเปนั้น รูปแบบทั่วๆ ไปก็คล้ายๆ กับสวนสาธารณะอื่นๆ แต่มีเพิ่มส่วนที่เป็นสวนสุขภาพเข้ามาอีก เช่นในภาพก็เป็นลานนวดฝ่าเท้า เขาทำเป็นถนนยาวๆ มีหินเล็กๆ รูปทรงกลมๆรี ปักโด่ๆ ขึ้นมาเพื่อใช้นวดฝ่าเท้า นัยว่าแก้ปวดเมื่อยและรักษาโรคได้ผมลองเดินเล่น แต่เดินไปได้ไม่สุดถนนเพราะเจ็บฝ่าเท้า(มาก) โดยส่วนใหญ่คนสูงอายุชอบมาเดินนวดฝ่าเท้าตรงนี้ หินที่ใช้เป็นหินที่มาจากแม่น้ำอะไรเทือกนั้น หรือว่าน่าจะมาจากภูเขาไฟ

Wednesday, March 7, 2007

สะพานข้ามแม่น้ำตั้มสุ่ย


สะพานข้ามแม่น้ำ Tamsui มองจากท่าเรือที่จะพานักท่องเที่ยวไปตามจุดต่างๆ

พิพิธภัณฑ์ชนพื้นเมือง


พิพิธภัณฑ์ชนพื้นเมือง
ภายในพิพิธภัณฑ์ชนพื้นเมืองของไต้หวันตั้งอยู่ บริเวณทางเข้าไปยังบ่อน้ำแร่ Hot Spring ของซินเป่นโถ อยู่เยื้องกับห้องสมุดชุมชนของเมืองนี้

Tuesday, March 6, 2007

พิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์

ตอนเช้าเพื่อนบอกก่อนไปทำงานว่าวันนี้ไม่ว่างพาไปไหน ให้นั่งรถเล่นไปก่อน ผมเปิดหนังสือ Lonely Planet Guidebook ประเทศไต้หวันที่ซื้อมาจากเมืองไทยดู และดูจากแผนที่ที่ได้มาจากสถานีรถไฟไปเรื่อยก็พบว่ามีพิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่งยังไม่ได้ไป เลยนั่งรถไฟ MRT เล่นๆ ลงที่สถานีไหนจำไม่ได้แล้วเดินเล่นไปเรื่อยๆ จนพบพิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์ก็เลยเข้าไปดูด้วยความบังเอิญ แล้วก็ไม่ผิดหวัง ภายในพิพิธภํณฑ์ไม่ได้มีแค่เครื่องมือเครื่องไม้เก่าๆ มาโชว์เท่านั้น แต่ยังทำเป็นเรื่องราวต่อเนื่อง มีนิทรรศการทั้งแต่ครั้งโบราณมาจนถึงกระบวนการต่างๆ ในการคัดแยกพัสดุภัณฑ์ เป็นที่น่าสังเกตว่าพิพิธภัณฑ์ของเขานั้นมีชีวิตชีวามาก ให้ความรู้สึกว่าเหมือนกับเราได้กลับไปอยู่ในยุคนั้นๆ

ไปเดินเขา




วันหยุดของเพื่อน เพื่อนชวนไปขึ้นเขา หยางหมิง ซาน ซานในภาษาจีนแปลว่า "ภูเขา" ในวันหยุดประจำสัปดาห์หรือวันหยุดอื่น ผู้คนมักชอบขึ้นไปพักผ่อนกัน เราขึ้นรถเมล์ไปบนเขาแล้วก็นั่งรถต่ออีกทอดหนึ่ง วันที่เราไปนั้นฝนตกมาก เราต้องซื้อเสื้อกันฝนที่ร้านขายของที่ระลึกบนเขานั้นเอง เป็นเสื้อกันฝนบางๆ ใส่แพคมาง่ายๆ เทาฝ่ามือแต่กันฝนได้ แม้วันนี้ฝนตกแต่ก็มีคนเดินกันมาก เป็นการออกกำลังกายได้อย่างดี มีทั้งคนหนุ่มสาวและคนแก่ ทางเดินนั้นเขามีป้ายบอกไม่ต้องกลัวหลงเพราะเส้นทางนั้นเชื่อมกันได้ แต่ถ้าเดินคนเดียวด็น่ากลัวเหมือนกันเพราะเป็นระยะทางไกลๆ ผมเองยังงง แต่เราไท่ได้รีบร้อนอะไร เดินไปเรื่อยๆ เราใช้เวลอยู่บนเขาเกือบสามชั่วโมง มาคราวนี้ได้เดิน Bush Walking สมใจ

เที่ยวตลาดหุ้น


เข้าไปเที่ยวห้องซื้อขายหุ้นในอาคารแห่งหนึ่งใกล้ๆ ที่พักแถวHsin Beitou นั่แหละ ส่วนใหญ่จะเป็นคนสูงอายุมาเล่นกัน ก็นั่งดูการเคลื่อนไหวของตลาดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็เหมือนกับการเล่นการพนันแบบหนึ่ง ซื้อขายกันเป็นวันๆ ไป ตอนที่ไปเที่ยวเจ้าเพื่อนของผมก็นั่งหน้าจอโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน ซื้อขายกันทางโทรศัพท์เหมือนกัน เคยถามว่าได้เสียกันเยอะมั้ย เพื่อนตอบว่าซื้อไม่มาก ไม่เป็นไร เล่นเอามัน แต่ก็ได้มาบ้างเล็กๆ น้อยๆ ไม่รู้เท่าไร ธนาคารจะแจ้งใหเทราบเป็นระยะๆ เพราะการเล่นต้องเปิดบัญชีเป็นแสนขึ้นไปเพื่อโอนเงินไปซื้อ-ขายหุ้น จะเปิดน้อยๆ แบบเล่นๆ คงไม่ได้ เพราะเขามีการควบคุมอย่างรัดกุม เราเองไม่มีปัญญาเล่นเพราะไม่มีเงินมากขนาดนั้น ได้แต่นั่งดูเฉยๆ (ไม่รู้ไปนั่งดูทำไม ถ้าไม่เล่น)

สวนนกที่กวานตู





ไต้หวันเป็นเกาะเล็กๆ ที่มีพื้นที่ไม่มากนัก แต่มีพื้นที่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจหลายแห่ง ตั้งแต่ป่าภูเขาจนถึงป่าชายเลน ที่สวนกวานตู หรือ Gandau Nature Park แห่งนี้เป็นพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์ไม้ชายเลนและนกน้ำพันธุ์ต่างๆ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าศึกษาธรรมชาติและดูนกได้อย่างใกล้ชิดโดยไม่ต้องจับนกมากักขังเหมือนในสวนสัตว์ อุทยานทำสถานที่(แอบ)ดูนกไว้ให้นักท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้รบกวนนกเหล่านั้น นอกจากนั้นยังทำห้องนิทรรศการไว้ให้เด็กๆ นักเรียนได้เรียนรู้อีกด้วย

เรื่องของส้วม


ส้วมสาธารณะในไต้หวันส่วนใหญ่นั้น เท่าที่เห็นสะอาดสะอ้าน โดยเฉพาะส้วมตามสถานที่สาธารณะ เช่นสถานีรถไฟฟ้า รถไฟ หรือตามสถานที่อื่นๆ ที่สำคัญเขาเน้นประโยชน์ใช้สอยของคนทุกประเภทอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กอ่อน เด็กโต สตรีและคนชรา รวมไปถึงคนพิการ เป็นที่น่าสังเกตว่าในส้วมหรือห้องน้ำมีอุปกรณ์ยึดเกาะสำหรับคนพิการทุกแห่ง มาตรฐานของส้วมในลักษณะดังกล่าวบ่งบอกถึงความเจริญของประเทศได้โดยไม่ต้องจำเป็นต้องจะโกนปาวๆ ว่าประเทศของเราเจริญแล้ว

แผนที่สำหรับคนเดินทาง



สำหรับคนเดินทางแล้ว แผนที่เป็นสิ่งจำเป็นไม่น้อย ตามสถานีรถไฟและรถยนต์ขนส่งของไต้หวัน มีแผนที่ไว้ให้ดูได้สะดวกโดยเฉพาะนักเดินทางที่มาจากที่อื่นๆ หากไปรู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน หรือจะไปอย่างไรก็สามารถอ่านได้จากแผนที่ ในภาพเป็นนักเดินทางต่างถิ่นที่จะขึ้นรถไฟฟ้า แต่พอเข้าประตูสถานีไม่รู้จะไปทางไหน ก็เดินดูตารางสถานีรถเพื่อจะรู้ว่าหากไปต่อรถอีกสายจะลงสถานีใดแล้วต่ออย่างไรเพราะรถไฟฟ้าหรือ MRT ของไต้หวันมีหลายสาย หากขึ้นผิดก็ออกไปคนละทิศ เสียเวลาย้อนกลับ

ไต้หวัน Amazing Island




เยือนไต้หวัน
ประเทศไต้หวัน เป็นเกาะเล็กๆ (หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เกาะฟอร์โมซาซึ่งเป็นภาษาโปรตุเกสแปลว่า เกาะสวยงาม) อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของไทย อยู่ทางทิศตะวันออกของจีนแผ่นดินใหญ่ อยู่ทางใต้ของญี่ปุ่น รูปร่างของเกาะคล้ายรูปใบไม้ พื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันออกเป็นภูเขา ส่วนทางตะวันตกจะเป็นที่ราบ
ในอดีตเคยอยู่ภายใต้การปกครองของพวกดัทช์ สเปญ จีน ญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นประเทศไต้หวันมีชื่อทางราชการว่า Republic of China (ROC) มีพลเมืองประมาณ 22.7 ล้านคน(สถิติเมื่อปี พ.ศ. 2547) ว่ากันว่า กว่า 18 ล้านคนเป็นชาวจีนที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนที่เหลือเป็นคนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่เดิม
ภาษาที่ใช้อย่างเป็นทางการได้แก่ภาษาจีนกลางหรือ Mandarin ส่วนภาษาที่พูดกันมีอีกหลายภาษา เช่น ภาษาไต้หวัน ภาษาฮักกา (Hakka)
ระบบการศึกษาเป็นแบบการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี ประชาชนอ่านออกเขียนได้ร้อยละ 99.5
อัตราการเกิดของประชากรอยู่ที่ ร้อยละ 0.54
มีวัยทำงานอยู่ประมาณ 10.125 ล้านคน
ไต้หวันเป็นประเทศเล็กที่มีภูมิประเทศสวยงามมาก แม้สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติจะมีไม่มากนัก แต่ทางการไต้หวันได้พัฒนาพื้นที่การท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะเรื่องการจัดการกับสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังได้พัฒนาเขตภูเขาในท้องถิ่นให้เป็นสถานพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างเหมาะสม การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติภูเขาเป็นไปอย่างกลมกลืนกับวิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไปเป็นอุตสาหกรรมเต็มรูปแบบแล้ว
การขนส่งของไต้หวันจัดได้ว่าเยี่ยมเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ (ยกเว้นญี่ปุ่น) ประเทศของตน (ไม่ต้องเปรียบกับประเทศไทยอีกเช่นกัน) ลองดูภาพเพื่อแทนพูดนะครับ