Google

Thursday, November 22, 2007

Ceramic Street (6)


เราเดินเข้าไปในร้านกับเพื่อน เพื่อชมเครื่องดนตรี ที่นำภาพมาให้ดูนี้เป็นเครื่องดนตรี Ocarina สามแบบในหลายๆ แบบที่เราเห็น มีทั้งเป็นรูปอย่างที่เห็นในภาพและแบบรูปดาวหรือรูปนกและรูปอื่นๆ

Ceramic Street (5)


ร้านนี้ขายเครื่องดนตรีอ้อกคารีน่าซึ่งเป็นเครื่องเป่าทำจากดินเผาหรือเซรามิก เวลาเป่าเสียงคล้ายขลุ่ยเพียงออบ้านเรา ลักษณะกลมๆ แบนๆ คล้ายลูกสะบ้า แต่รูปิดเปิดไม่เหมือนขลุ่ย มีสองด้าน ด้านหน้ามีสี่รู ด้านหลังมีสองรู(ดูภาพ Ocarina ได้ที่หน้าบล้อก"โลกของลุงวรรณ")คนขายเครื่องดนตรีออกมายืนหน้าร้านเป่าโชว์นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมา เธอเล่นได้ทีเดียว ก็จะขายของเล่นไม่เป็นก็ไม่รู้จะดึงดูลูกค้าอย่างไร

Ceramic Street (4)


เดินไปตามถนนในหมู่บ้านเซรามิกพบผลิตภัณฑ์แปลกๆ มากมาย ในภาพเป็นกระถางต้นไม้ที่ทำมาจากหินเจาะด้วยเครื่องเจาะ ที่เดาว่าใช้เครื่องเพราะความเรียบของโพรงเจาะนั้นเกิดจากสวาน คงใช้มือเจาะลำบากเนื่องจากหินแข็งมาก บางก้อนเป็นหินอัคนี ก็สวยไปอีกแบบ

Tuesday, November 20, 2007

เงินดอลลาร์ ไต้หวัน




เงินที่ใช้กันในไต้หวัน เป็นสกุลเงิน Taiwan Dollar(NT$) เราสามารถแลกเปลี่ยนเงินทุกสกุลเป็นเงินไต้หวันได้ที่ธนาคารแทบทุกแห่ง ห้างสรรพสินค้าบางแห่งก็มีที่รับแลกเหมือนกัน

ธนบัตรไต้หวัน มีตั้งแต่ราคา NT$100, 500, และ 1,000 ส่วนเหรียญนั้นก็มีตั้งแต่เหรียญ NT$1, 5, 10, 20 และ 50 ดอลลาร์ ไม่มีธนบัตรใบละ 50 แบบบ้านเราครับ มีแต่เหรียญ 50 ดอลลาร์ อันใหญ่ๆ สีทองๆ นั่นแหละครับ

แหล่งที่มา Banknotes of Taiwan

Monday, November 19, 2007

รถเมล์ รถไฟ ใน Taipei


ขอคั่นรายการสถานที่ท่องเที่ยวไว้สักแป้บนะครับ มีผู้อ่านถามเรื่องการเดินไปโน่นมานี่ในไต้หวัน สำหรับท่านที่เดินทางไปไทเป รถราสะดวกมาก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า MRT ที่เล่ามาแล้ว รถไฟ รถบัสโดยสารในเมืองและรถโดยสารที่วิ่งระยะทางไกลๆ

มาดู MRT ก่อน รถไฟฟ้าทุกสาย เป็นบริษัทเดียวกัน แต่เราสามารถต่อรถได้ทุกสายโดยใช้ตั๋วใบเดิม ส่วนราคาค่าตั๋วก็ขึ้นอยู่ว่าเราขึ้นไปกี่สถานี ก่อนขึ้นให้สังเกตป้ายว่าเราจะไปไหน แต่ละสายจะมีสีต่างกัน เช่น สายตั้มสุ่ย (Danshui Line เป็นสายสีแดง) จะผ่านสถานี CKS Memorial Hall ฉะนั้นต้องระวังเพราะมีอีกหลายสี ไม่จำเป็นต้องอ่านภาษาจีนออกเพราะเขามีภาษาอังกฤษกำกับไว้ด้วย และยังมีอีกหลายสายที่น่าสนใจ เช่น สายสีส้ม (Zhonghe Line) สายสีเขียว (Xindian Line) และบางสายก็ไปถึงแค่ Beitou เท่านั้น หากจะไป Xin Beitou ก็ต้องต่อรถไปอีกหน่อย(สายสีชมพู)

จากสนามบินเข้าเมือง

เครื่องบินระหว่างประเทศทุกเที่ยวบินต้องมาลงที่สนามบินเต้าหยวน(Taoyuan International Airport) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของไทเป ใช้เวลาวิ่งจากสนามบินเข้าไทเปประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าจะให้ง่ายและถูกที่สุดก็อาศัยรถโดยสารจากสนามบินเพราะมีรถบัสบริการถึง 6 สายได้แก่
• Evervoyage
• Fe Go Express
• Taiwan Bus Corporation
• Taoyuan Bus Corporation
• Toward You Air Bus
• United Highway Bus

รถไฟวิ่งระหว่างเมือง

บริการรถไฟสายต่างๆ ที่วิ่งให้บริการระหว่างเมืองนั้นเป็นของบริษัท Taiwan Railways Company มีทั้งรถด่วน รถธรรมดา รถธรรมดาจะจอดรับผู้โดยสารทุกสถานี หากอยากขึ้นรถไฟต่างเมืองในไทเปก็ให้ไปดักขึ้นที่สถานี Banqiao (Panchiao) Taipei Main Station และ Songshan Station แต่หากจะไปรถด่วนละก็ให้ไปที่ Taipei Main Station อย่างเดียว ซึ่งรถทุกสายจะเข้ามาจอดที่นี่
.
ข้อมูลจาก Taipei Road Map

Sunday, November 18, 2007

ตอบจดหมายท่านผู้อ่าน


ขอตอบคำถามเป็นข้อๆ เลยนะครับ

1. ถ้ามีเวลาไม่มากหรือมีเวลาช่วงสั้นๆ หลังสัมนาให้เดินไปที่ Taipei Main station ไม่ไกลมากขึ้นรถไฟ MRT สาย Dansui(สีแดง)ไปเที่ยวตั้มสุ่ย(ใช้เวลาทั้งวันหรือครึ่งวันก็แล้วแต่เรา) มีที่เที่ยวเยอะทั้ง Fishermen's Wharf และโบราณสถานแถวๆ นั้น เช่น มหาวิทยาลัยอ้อกฟอร์ด(Tamsui Oxford University College)และ Fort San Domingo ที่แนะนำตั้มสุ่ยเพราะอยู่ไม่ไกลมาก ไป-กลับสะดวก ที่เที่ยวเยอะ ถ้าไม่เมื่อยขาซะก่อน

2. ไปเที่ยวไต้หวัน ไม่จำเป็นต้องแลกเงินเอาไปมากเพราะตอนกลับมาแล้วแลกคืน ขาดทุนเยอะ gap ของ selling rate และ buying rate ต่างกันมากโขอยู่ แลกเอาไปเฉพาะพอใช้ หากจะซื้อของประเภทคคอมพิวเตอร์ซื้อบ้านเราถูกว่า หากซื้อ accessory ละก้อก็โอเคครับ

ความปลอดภัยที่นี่ค่อนข้างดี(เยี่ยม) อาชญากรรมน้อย ไม่ต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ มิจฉาชีพ มีอยู่ทุกประเทศ ผมเรียนอยู่ที่ออสเตรเลียก็ยังเคยได้ยินข่าวบ่อยๆ อย่าพกเงินเยอะ ได้ไม่คุ้มเสีย หากซื้อของในห้าง ใช้การ์ดซื้อก็ได้

การเดินทางใช้รถไฟฟ้าสะดวกมาก ลองขึ้นเล่นดู และขอแผนที่การท่องเที่ยวได้ที่สถานีรถ MRT ทุกแห่ง ฟรีครับ บางทีมีโบรชัวร์การโดยสารรถไฟเป้นภาษาไทยด้วย แผนที่ละเอียดดี คนไม่เคยไป ก็ไปถูก ขอแผนที่ที่ Taipei Mainstation ก็ได้ครับ

แต่หากเราอยากจะเที่ยวในเมือง ตอนเย็นๆ หลังเลิกประชุมเดินไปเที่ยวย่าน shopping malls แถวๆ ตึก Taipei 101 ก็ได้ ที่นั่นมีห้างสรรพสินค้ามากมายติดๆ กันเหมือนกับย่านสยามบ้านเราแต่ห้างใหญ่ๆ มากกว่า มีสะพานเชื่อมเดินถึงกันได้ จะเดินไปหรือนั่งรถไฟฟ้า MRT ใต้ดิน สายสีน้ำเงิน (Kunyang)ก็ได้ ขึ้นไปโผล่ที่สถานี Taipei City Hall แล้วเดินไปอีกนิด เดินดีกว่า ไม่ร้อน อากาศเย็นดี เตรียมแจ้กเก็ตเสื้อกันหนาวไปด้วย อากาศเย็นโดยเฉพาะกลางคืน เสื้อผ่าบ้านเราดีกว่า ถูกกว่า ที่โน่นแฟชั่นดีกว่าบ้านเรา (เมด อิน ไชน่า) เดินไม่เบื่อ

หรืออีกโปรแกรมหนึ่ง ลองไปเที่ยวที่ Chiang Kai-Shek Memorial Hall ก็ได้ เดินเที่ยวเพลินดี ขึ้นรถไฟใต้ดิน สาย สีแดงที่วิ่งมาจากDansui ผ่าน Taipei main station ไปโผล่ที่สถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall เลยครับ เดินเล่นแถวนั้น สวยดี แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะ รวมทั้งคนไทยด้วย ผมเคยได้ยินเสียงไกด์ไทยพากษ์จ๋อยๆ ฟังแล้วครึ้มดี เหมือนที่เคยได้ยินที่วัดพระแก้วครั้งหนึ่ง ไกด์ (license ด้วยนะ) พูดภาษาอังกฤษถูกๆ ผิดๆ ฟังแล้วเพลินดี "no go, no go, dis way นะ" แน้! มีนะซะด้วย เออ เอาเข้าไป

ลองดูนะครับ ได้ความว่ายังไง เขียนมาเล่าให้ลุงฟังบ้าง

จดหมายจากผู้อ่าน

มีจดหมายจากผู้อ่านที่กำลังจะเดินทางไปไต้หวันถามเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในไต้หวัน ก็ตอบให้ทราบเผื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นบ้างครับ

On 11/18/07, Seri Udharasawasdi wrote:
สวัสดีครับ ลุงวรรณ

ผมชื่อเสรีครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ

พอดีว่า ในสัปดาห์หน้านี้ ผมจะไปจัดประชุม ผงานบริษัท) ที่ไต้หวัน ครับ โดยในระหว่างนั้น จะมีเวลาช่วงว่างบ้างเล็กน้อย ซึ่งผม ไม่เคยไปที่ไต้หวันเลย จึง search ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต และพบเว็บไซต์ของลุงวรรณเข้า และได้เข้าไปศึกษา และอ่านเนื้อหาที่ลุงวรรณได้แชร์เอาไว้ เรียบร้อย ครับ และตัดสินใจเมล์มาสอบถาม เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากลุงวรรณ โดยแบ่งเป็นประเด็น ต่าง ๆ ดังนี้ครับ
1. เรื่องรบกวนเกี่ยวกับการขอคำแนะนำเรื่อง สถานที่ท่องเที่ยว ครับ
ในช่วงที่ผมไป ผมจะมีเวลาเป็นของตนเองจริง ๆ แค่ประมาณเย็น-คืนวันพฤหัสฯที่ 22 ครับ (อาจจะดชคดี ได้ช่วงตลอดบ่าย ของศุกร์ที่ 23 ด้วยครับ เพราะงานจัดแค่ช่วงเช้าศุกร์ แต่ต้องกลับคืนนั้น ตอนสองทุ่มครับ)
ไม่ทราบว่า ลุงวรรณพอจะมีสถานที่ท่องเที่ยว แนะนำมั๊ยครับ ใจจริง ๆ ผมอยากไปสถานที่ แนวประมาณ....วัดวาอาราม หรือ ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ การเมือง แต่เข้าใจว่า น่าจะลำบาก เพราะข้อจำกัดด้านเวลา (ดึกขนาดนั้น คงไม่มีที่ไหนเปิด...หรือเปล่าครับ) หรือถ้าไม่งั้น ก้อเป็นแนวตรงข้ามไปเลยครับ เช่น ตลาด ชีวิตยามค่ำคืน (จริง ๆ ก้อไม่ได้ต้องการขนาดสีลม สุขุมวิทนะครับ เพราะดูสีสัน ความวุ่นวายมากไปนิด) แต่อาจจะเป็นแหล่งชอปปิ้งที่ไม่พลุกพล่านมากนัก (ประมาณ สวนลุมไนท์บาซาร์น่ะครับ) ลุงวรรณพอจะมีคำแนะนำมั๊ยครับ
2. ว่าด้วยเรื่อง การเดินทาง การขนส่งมวลชน และ ความปลอดภัยในการเดินเท้าครับ
- ในไต้หวัน สมมติว่า ถ้าเราไปตามท้องถนน จะต้องระมัดระวังเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มากน้อยแค่ไหนครับ หรือเป็นเฉพาะแหล่ง ครับ และ สำหรับการเดินทาง จะยากลำบากมั๊ยครับ (ผมพักที่ Sheraton Taipei Hotel ครับ แต่งานประชุม จัดที่ Grand Formosa Hotel ครับ เลยไม่ทราบว่า หากจะเริ่มต้นเดินทาง ท่องเที่ยวสั้น ๆ ช่วงเย็น ๆ ควรเริ่มจากโรงแรมที่พัก หรือ โรงแรมที่จัดประชุมดีครับ)
นอกจากนี้ แล้ว หากลุงวรรณมีข้อแนะนำเพิ่มเติมประการใด ก้อเชิญได้เลยนะครับ เพราะผมเองเรียนตามตรงว่า ครั้งนี้ ที่ไป สมองค่อนข้างโล่งเลยครับ (คือ ไม่ค่อยมีข้อมูลของ ไทเปเลยครับ)
สำหรับข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติม (ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์และการให้คำแนะนำ) ผมเอง เคยไปต่างประเทศ ที่ญี่ปุ่น (ทำงานที่นั่น) กับจีน (ท่องเที่ยวกับทัวร์) ส่วนภาษา พออ่าน จีน กับญี่ปุ่นได้บ้างครับ (ตอนแรก เข้าใจว่า ภาษาจีนที่หลงเหลืออยู่ เล็กน้อย ซึ่งก้อเป็นจีนกลางที่ไม่เหมือนที่ไต้หวัน จะพอเป็นประโยชน์ได้บ้าง แต่พออ่านที่ลุงวรรณเขียน ว่า ภาษาไต้หวันมีลักษณะเป็นของตนเอง รวมถึงสำเนียง และภาษาพูด เลยมีความรู้สึกกังวลเพิ่มขึ้นครับ)
ท้ายที่สุดนี้ ผมขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาลให้ลุงวรรณและครอบครัว ประสบกับความสุข มีสุขภาพที่แข็งแรง (จะได้ update ข้อมูลให้เด็กรุ่นหลัง ได้อ่านกันเรื่อย ๆนะ ครับ)

ด้วยความเคารพเป็นอย่างสูงครับ

เสรี

Wednesday, November 14, 2007

Ceramic Street 3


ภายในร้านของแต่ละร้านจะมีกลยุทธเรียกลูกค้าในลักษณะต่างๆ กัน ร้านนี้ไอเดียกระฉูด ให้นักเท่องเที่ยวสามารถปั้นเองได้ ในภาพหนูน้อยสงคนบรรจงปั้นงานของตัวเองอย่างขมักเขม้น สร้างความน่าสนใจให้นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมา

Street Ceramic 2


ถนนในหมู่บ้านเขาทำดีมาก ให้คนเดินเที่ยวเพื่อซื้อของพื้นบ้านหรือสินค้าท้องถิ่น เจ้าของร้านแต่ละร้านก็พยายามแต่งร้านให้ย้อนยุคเพื่อเรียกบรรยากาศของวันเวลาเก่าๆ กลับมา ถนนปูด้วยหิน ไม่มีรถวิ่ง เมศบาลนำต้นไม้มาปลูกเพื่อให้เกิดความร่มรื่นแก่นักท่องเที่ยว อยากให้บ้านเราเป็นแบบน้จัง

Ceramic Street


ร้านนี้ทำเท่ห์ เขาทำทางเดินเป็นเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาเก่าแก่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ทางเข้าด้านหน้าเป็นรูปเตาเผาเซรามิก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทะลุเข้าไปชมข้างในโดยผ่านทางนี้เข้าไปในร้านได้ ช่างคิดจริงๆ

เต้าหู้ปิ้ง


ไปเที่ยวถนนเครื่องปั้นดินเผาแห่งหนึ่งย่าน Yingee พบของกินเล่นที่ทำมาจากเต้าหู้หั่นเป็นสี่เหลี่ยม เสียบไม้นำไปย่างแล้วราดด้วยน้ำซอสหวานๆ ลืมถามเพื่อนเรียกว่าอะไร แต่อร่อยมาก เราชอบ กินเป้นอาหารว่างได้ดี

Monday, November 5, 2007

จักรยาน พาหนะยอดนิยม


คนไต้หวันนั้น ยังขี่จักรยานอยู่ก็มาก เอาจักรยานมาจอดที่สถานีรถไฟฟ้า จากนั้นก็ขึ้นรถไฟฟ้าหรือรถไฟไปทำงานในเมือง รถไฟฟ้า MRT จะมีแผนที่บอกว่าสถานีใดให้นำจักรยานขึ้นรถไฟฟ้าได้ ถึงจะไม่ทุกสถานี แต่ก็ถี่มาก อาจจะขี่ไปขึ้นรถไฟสถานีหน้าได้ โดยส่วนใหญ่ที่เห็น ผู้โดยสารจะนำจักรยานไปจอดท่าสถานีซึ่งเขาทำที่จอดไว้ให้ แล้วก็นั่งรถต่อ จะมีบ้างก็พวกวัยรุ่นหรือคนต่างชาติที่นิยมนำจักรยานขึ้นรถไฟฟ้า

สำหรับในบ้านเรานั้น แม้จะมีการรณรงค์ให้ขี่จักรยานกันปาวๆ แต่รัฐบาลก็ไม่ได้จริงใจอะไร ทำไปตามกระแสเท่านั้น ช่องทางจักรยานก็ไม่ได้ทำกันจริงจัง ผู้ขับขี่จักรยานก็ไม่มีพื้นที่จะขี่ เห็นธาตุแท้นักการเมืองไทยแล้วก็สังเวช น้ำเน่าไม่เลิก ขี้โม้ที่หนึ่ง ตอนหาเสียงละก้อ ปาวๆ ว่าจะทำโน่น ทำนี่ พอเห็นแล้วหายหัว จะเห็นการขี่จักรยานในเมืองใหญ่บ้านเราน่ะ ยาก

สถานีรถไฟฟ้า ซินเป่ยโถ


ผู้โดยสารกำลังยืนคอยรถไฟฟ้าอยู่ที่สถานีเป่ยโถซึ่งเป็นสถานีต้นทางแยกออกมาจาก สถานีเป่ยโถ ทุกสถานีของรถไฟฟ้าจะมีป้ายไฟฟ้าบอกเวลารถเข้าออก ว่าเราต้องคอยอีกกี่นาทีรถถึงจะมา และมีโทรทัศน์โฆษณาให้ดูแก้เซ็งระหว่างการยืนคอย

สถานีรถไฟฟ้าเจี้ยนถันยามเย็น



ที่ "เจี้ยนถัน"นี้มีตลาดอาหารใหญ่ อาหารอร่อยๆ หลายร้าน ผมกลับจากไทเป ก็มักจะแวะลงหาอาหารทานเพราะมีอาหารหลากหลายให้เลือก เป็นอาหารสำเร็จทานได้ทันที หากต้องการเดินเที่ยวก็มีของมากมายให้เดินช้อป ผมชอบกุนเชียงย่าง อันใหญ่ดี ราคา 20 ดอลลาร์ เดินแทะไปดูของเพลินๆ ไม่ได้ซื้อหรอก ดูไปอย่างนั้นเองเพราะไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าอะไร ก็ไม่เหมาะกับบ้านเรา ยกเว้นเสื้อยืด (เมด อิน ไชน่า)สวยๆ เพื่อนชอบพาผมมาที่นี่ หากไม่รู้จะไปไหน

ขนส่งไต้หวัน


สภาพรถขนส่งทางไกลๆ นั้นดูสะอ่านสะอ้านทุกคัน ไม่มีรูโหว่ หรือสีเทาๆ ทั้งคันแบบ บขส. ของเรา ไม่มีกระเป๋ารถเมล์ท่าทางหยาบคายแบบรถต่างจังหวัดของเรา พอเกิดมีเรื่องอะไร บขส. ปฎิเสธทันควันว่าเป็นรถร่วม ก็ตอนที่ให้เข้ามาร่วมทำไมไม่ออกระเบียบให้เคร่งครัดก่อนเข้าร่วม พูดมากแล้วเซ็ง บขส. บ้านเราจริงๆ

รถเมล์ประจำทาง


ท่ารถที่จะเดินทางไกลๆ บริการโดยบริษัทขนส่งเอกชนของไต้หวัน (ภาพนี้ถ่ายที่ท่ารถใกล้ๆ Taipei Main Station ) บริษัทที่เราคุ้นๆ ตาก็ได้แก่ บริษัท Guo- Guang Bus Corp บริษัท Union Bus บริษัท Dragon Bus บริษัท Free Go Bus Corp. และบริษัท Aloha Bus บางบริษัทให้บริการ 24 ชั่วโมง ปัจจุบันบริษัทเดินรถที่ว่านี้ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะแข่งขันกันให้บริการ โดยเฉพาะการตกแต่งภายในตัวรถดูหรูหรา มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพียบ เช่นโทรทัศน์รุ่นใหม่ๆ บริการผู้โดยสาร สำหรับท่านที่ต้องการใช้บริการเพื่อเดินทางไปสนามบินนานาชาติ CKS ขอแนะนำให้ใช้บริการรถโดยสารแบบนี้เพราะมีรถให้บริการไปถึงสนามบินและเมืองอื่นๆ อีกมากถึง 6 สาย(6 บริษัท) ลองนั่งดูครับ ประหยัดด้วย หากเป็นแท้กซี่ก็ฟันไปเกือบพันดอลลาร์

Sunday, November 4, 2007

แท้กซี่ไทเป


แท้กซี่ไต้หวันทั้งหมดเป็นสีเหลือง ไม่ได้หลากสีเป็นสายรุ้งแบบบ้านเรา ผมไปไต้หวันปีละสองครั้ง ไม่เคยถูกแท้กซี่โกงเหมือนที่ได้ยินข่าวในบ้านเราอยู่เนืองๆ (ส่วนใหญ่ผมใช้บริการรถประจำทางสาธารณะ เช่น รถไฟและรถบัส)
การขึ้นแท้กซี่ก็คล้ายๆ บ้านเรา ยืนโบกข้างทางได้เลยหรือจะโทรศัพท์เรียกมาก็ได้ ไม่มีชาร์จเพิ่มเหมือนในหมู่บ้านเรา(แต่ตามมรรยาทควรทิป 10 ดอลลาร์หากโทรให้มารับหรือให้เอากระเป๋าใส่ท้ายรถ) ค่าโดยสารก็คิดเป็นระยะ ขั้นแรกเสีย 70 ดอลลาร์ไต้หวัน(NT$) สำหรับ 1.5 กม. แรก เพิ่มอีก 5 ดอลลาร์ทุกๆ 300 เมตร หากคอยนานก็ชาร์จอีก 5 ดอลลาร์ทุกๆ สองนาที อย่างไรก็ตามพี่คนขับแกจะชาร์จเพิ่มหากเราใช้บริการในช่วงเทศกาล เช่น วันตรุษจีนเป็นต้น
ข้อควรระวังก็คือ หากจะเดินทางออกนอกเมืองไกลๆ ควรต้อรองราคาให้แน่นอนเพราะคนขับแท้กซี่จะไม่กดมีเตอร์ แต่ใช้ราคาตามที่ตกลงกัน ก่อนอื่นเราต้องรู้ระยะทางว่าห่างจากที่เรายืนอยู่กี่กิโลเมตร เราสามารถเดาได้ว่าจะต่อรองราคาประมาณเท่าไร อย่าต่อมั่วก็แล้วกันนะครับเพราะอาจต้องมาเสียดายเงินทีหลัง หากเพื่อนของเราเดินทางไปในระยะทางเดียวกันที่ถูกว่ากันเกือบครึ่ง

เดินทางด้วยเป้ใบเดียว



ผมเดินทางด้วยสัมภาระไม่มาก แม้ไปต่างประเทศทุกครั้งมีเป้ใบเล็กๆ เพียงใบเดียวด้วยเหตุผลประการแรก คือ ผมไม่ชอบถืออะไรพะรุงพะรังเพราะหนักและถือมากไม่ไหว ประการต่อมาก็คือเราสามารถเดินทางต่อไปไหนๆได้สะดวกมากกว่าการมีสัมภาระเยอะๆ มีเสื้อผ้าชุดสองชุดก็พอ แต่ที่ไต้หวัน เผอิญผมมีเสื้อผ้าทิ้งไว้ที่บ้านเพื่อนในไทเป จึงไม่ต้องเอาอะไรไปมาก แม้แต่แปรงสีฟัน ผมเคยไปเที่ยวเมลเบิร์นหกวันด้วยเสื้อผ้าสองชุด ซักเปลี่ยนที่laundary หยอดเหรียญ สะดวกมาก แต่คำแนะนำนี้ไม่เหมาะกับแก่สตรีนะครับเพราะมีอุปกรณ์เสริมเยอะ