Google

Friday, May 30, 2008

สาธารณรัฐจีน


ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 21 เหตุการณ์ต่างๆในจีนแผ่นดินใหญ่ส่งผลต่ออนาคตของไต้หวันอย่างใหญ่หลวง ราชวงศ์ชิงซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของจีนล่มสลายลงในปีพ.ศ. 2454 หลังเกิดการกบถครั้งใหญ่ขึ้น ผู้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นได้แก่ ดร. ซุน ยัตเซ็นซึ่งต่อมาได้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐจีน (Republic of China)

ซุน ยัตเซ็นไม่ได้เมาอำนาจ เขาก้าวลงจากตำแหน่งเพื่อให้ หยวน ซีไข (Yuan Shikai) ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน แต่หยวน ซีไขไม่ได้ก็ดำเนินรอยตามวิสัยทัศน์ของซุน ยัตเซ็นเพื่อพัฒนาจีนให้เป็นประชาธิปไตย เขากลับพยายามตั้งตนเป็นจักพรรดิคนใหม่แทน แต่ท้ายที่สุดเขาก็ทำไม่สำเร็จและจบชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งเมื่อพ.ศ. 2459

ในช่วงสงครามกลางเมืองก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมาย ประเทศได้แตกแยกเป็นหลายฝักหลายฝ่ายเพื่อแย่งชิงอำนาจกัน ในที่สุดความสงบก็ค่อยๆ กลับคืนสู่ภาวะปกติ เมื่อก๊กมินตั๋ง (KMT)หรือพรรคแห่งชาติ(National Party) เรืองอำนาจ กองทัพของพรรคแห่งชาติซึ่งนำโดยเจียง ไคเช็ค อย่างไรก็ตาม KMT ก็พบปัญหารุมเร้ามากมายทั้งจากภายในเองและจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังทหารของญี่ปุ่นและจากฝ่ายกบถคอมมิวนิสต์ในประเทศ ในปีพ.ศ.2474 กองกำลังทหารของญี่ปุ่นเข้ายึดครองแมนจูเรีย พ.ศ. 2480 ทหารญี่ปุ่นก็บุกเข้าเมืองหลวงของจีน

หลังญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ภายใต้สนธิสัญญายัลต้า (Yalta Agreement) จีนได้อธิปไตยไต้หวันกลับคืนมา ชาวไต้หวันต่างยินดีที่สงครามสงบลง แต่ความปรีดาของชาวไต้หวันก็อยู่ได้ไม่นานเมื่อ เจียงไคเช็คส่งนายพลเชน ยี่จอมขี้ฉ้อและทำงานไม่เป็นมาเป็นผู้ว่าราชการไต้หวัน การปกครองของรัฐบาลฉ้อราษฎร์ของเชน ยี่มาถึงขีดสุดเมื่อเกิดการจลาจลต่อต้านก๊กมินตั๋งครั้งใหญ่ เมื่อพ.ศ. 2490 การปราบจลาจลในครั้งทำให้พลเรือนชาวไต้หวันถูกสังหารไปถึง 10,000 ถึง 30,000 คน เหตุการณ์ครั้งนั้นซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘2-28’ (ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์วิปโยคขึ้น) ยังเป็นที่จดจำของชาวไต้หวันมาจนถึงทุกวันนี้

รัฐบาลสั่งห้ามทุกคนเอ่ยถึงเรื่องนี้ในไต้หวันจนกระทั่งมีการยกเลิกกฏอัยการศึกเมื่อ พ.ศ. 2530 นี่เอง


ภาพ Dr. Sun Yatsen จาก Google Image

ข้อมูล lonely planet/ Taiwan

No comments: